วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

sanamluang online


Living Organized: Proven Steps for a Clutter-Free and Beautiful Home

มาฟังเวทีราชประสงค์สดๆ กันเถอะ

ฟังรปสกด!


thai E news!



ติดตามข่าวรปสกด!


เรื่องน่าอ่านนิยายการเมือง!

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แด่คนเสื้อแดง

มีกฏหมายอะไร ที่อนุญาตให้ ฆ่าประชาชน ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้
ประชาชนทั่วไปมีสิทธิฟ้องร้องอะไรรัฐบาล และผู้สั่งการได้รึเปล่า


คนเสื้อแดงเกิดเป็นไพร่ ชั่งไร้ค่า โดนกระทำ ยิ่งกว่าหมาข้างถนน
ทำอะไรผิด ถูกสังหารกลางฝูงชน แค่มาชุมนุมเรียกร้องยุบสภา
ทหารมีสิทธิ์อะไรใช้ปืนมาสังหาร ใช้อำนาจเผด็จการไปถึงไหน
ออกข่าวข้างเดียวป้ายสีอยู่เรื่อยไป แต่ไม่เคยมีความจริงให้ประชา
มาวันนี้ใช้อาวุธล่าสังหาร พวกสื่อสารมวลชนคนทั้งหลาย
ที่ถือกล้องบันทึกภาพอันตราย เพราะเป็นหลักฐานที่ทหารจ่อปืนยิงฝูงชน
ถึงพรุ่งจะมีใครอีกที่ถูกฆ่า เพราะข้อหาผู้ก่อการร้ายที่ยัดให้
เปลี่ยนกรุงเทพจากเมืองฟ้าศิวิไลซ์ สู่สมรภูมิรบของคนไทยมารบกัน
รัฐบาลมีทหารพร้อมอาวุธ เอ็มสิบหกเอ็มเจ็ดสิบเก้ามาพร้อมหน้า
อีกทั้งสไนเปอร์ปืนยิงไกลให้ไหวหวั่น กลัวจะเป็นเสธแดงสองกันพัลวัน
คนเสื้อแดงสู้ด้วยใจของนักสู้ ใช้หนังสติกยิงสู้ปืนทหาร
ใช้พลุบั้งไฟต่อสู้อากาศยาน ใช้ขวดน้ำมันจุดไฟเพื่อป้องกัน
นี่หรือคือผู้ก่อการร้าย อาวุธที่คือหัวใจไม่มีค่าจ้าง
ไม่มีเบี้ยเลี้ยง เงินพิเศษและผลงาน แถมยังมีเลื่อนขั้นเมื่อชีพวาย
แต่ไพร่ยังเป็นไพร่อยู่วันยงค่ำ ไม่มีใครมาดูแลคอยแก้ไข
มีแต่ไพร่ด้วยกันที่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเข้ามาร่วมการชุมนุม
ที่นี่มันหรือคือประเทศไทย ที่บอกว่าเราเป็นเมืองพุทธที่เจริญ
มาวันนี้ไม่เห็นมีที่ปลอดภัย จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขยับขยายขึ้นมาถึงเมืองกรุง แล้ววันพรุ่งนี้จะอยู่กันอย่างไร

ประเทศไทยเรานี้สองมาตราฐาน คดีพันธมิตรนานแสนนาน น่าฉงน


ยึดทำเนียบรัฐบาลของปวงชน ปิดสนามบินนานาชาติจนวุ่นวาย
มาวันนี้เกือบสองปีไม่ถึงศาล ไม่รู้ว่าต้องให้รออีกนานสักเท่าไร
ทั้งหลักฐานประจักพยานมีมากมาย แต่กลับไม่มีการกระทำแต่อย่างไร
แต่คดีไพร่แดงของคนจน รวดเร็วจนตั้งหลักแทบไม่ทัน


วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ยุทธวิถีที่ชาญฉลาด ของรัฐบาลทหารที่..... ประชาชนผู้บริสุทธิ์

ยุทธวิถีที่ชาญฉลาด ของรัฐบาลทหารที่..... ประชาชนผู้บริสุทธิ์

จากการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมาตลอดสองวัน พบข้อสังเกตได้ว่า มีการเตรียมแผนในการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามทุกรูปแบบในการปฎิบัติที่เหี้ยมโหดและอำมิตย์ที่สุด เท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของรัฐบาลผสมที่มาจากการเลือกตั้งโดยการผสมพันธ์ในค่ายทหาร ได้รับอานิสงจากการยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตร และการตัดสินยุบพรรคการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการทรยศหลักหลังประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งของนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง

ก่อนมีการชุมนุมใหญของคนเสื้อแดง(นปช) ฝ่ายรัฐบาลนำโดยรองนายกฝ่ายความมั่นคงได้มีการออกข่าวความรุนแรงต่างๆๆ มาก่อนการชุมนุมเสมือนว่ารู้ล่วงหน้าว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้นตามสื่อสารมวลชนทุกแขนง โดยไม่มีความสามารถในการป้องกันได้เลย

นับตั้งแต่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดงวันที่ 12 มีนาคม 2553 มีการยิง M79 ไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล แต่รัฐบาลไม่สามารถจับใครได้แม้แต่คนเดียว ทั้งที่ รองนายกได้ออกบอกให้ทราบก่อนแล้ว ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มีหลายๆๆ เหตุการณ์ที่น่าสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของ...... ทำเอง อาทิ การยิงที่กระทรวงสาธารณสุข ทันที หลังจากที่การประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น และอีกหลายๆๆ สถานที่

ต่อมาเกิดเหตุวันที่ 10 เมษายน 2553 องค์ต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีการเข้ามาตรวจสอบการกระทำของรัฐบาล ที่ทำให้มีความสูญเสียชีวิตไพร่ ทหาร สื่อต่างชาติ ยังเงียบไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ แต่มีการปัด แล้วโยนความผิดไปให้คนชุด ในฐานผู้ก่อการร้าย แต่มีคำถาม ว่าปลอกกระสุนที่มีตัวอักษร RTA ที่คนเสื้อแดงเก็บได้ เป็นของใคร ผู้ก่อการร้ายรึ ว่า กองทัพ แถมการเสนอข่าวของสื่อมวลชนยังเสนอข่าวเพียงด้านเดียว ว่าทหารถูกทำร้าย ทั้งที่ไพร่แดงบาดเจ็บและล้มตายมากกว่านับสิบเท่า

และยังเกิดเหตุตามมาอีก สองวัน ในเดือนเมษายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะวันที่ 28 เมาษยน 2553 ที่ต้องการจับตัว ขวัญชัยไพร่พนา ที่กำลังจะเดินทางไปให้กำลังใจผู้ชุนนุมที่ตลาดไท มีการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ ดักรอที่ถนนวิภาวดีรังสิต ผลปรากฎจับไม่ได้ แต่มีพลทหารตายหนึ่งนาย ที่ถูกยิงหลังจากที่ขี่มอเตอร์ไซด์ผ่ากลุ่มผู้ชุมนุม ไปยังที่หน้าบังเกอร์ของหน่วยทหาร ล้มลงต่อหน้าต่อตาเพื่อนทหารด้วยกันเอง แล้วบางรายโดนยิงบาดเจ็บ

มาถึงวันที่ 13 พฤษาคม 2553 ตอนหัวค่ำ มีการลอบยิงเสธแดง ที่บริเวณหน้าสวนลุมพินี เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม ทำลายแกนนำฮาร์คคอ ที่มีความสามารถทางการรบ เพื่อความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ เพราะแกนนำนปชที่เหลือ ไม่มีใครเป็นทหาร ไม่มีใครรู้วิธีรบ ไม่มีใครรู้การใช้อาวุธ เมื่อขาดเสธแดง จะทำให้ฝ่ายรัฐบาล ได้เปรียบในเชิงศึกสงครามที่ต้องการจะใช้กำลังและความรุนแรงกับประชาชน ถึงเป็นยุทธศาสตร์ที่หนึ่ง

ยุทธศาสตร์ที่สอง คือสร้างความกลัวให้กับสื่อมวลชน ลองสังเกตให้ดี ผลของวันที่ 10 เมษา 2553 ที่ทำให้รัฐบาลเสียหน้า คือมีสื่อต่างชาติ ที่รายงานความจริงออกไป ชนิดตรงกันข้ามกับที่รัฐบาลเสนอ มาถึงวันนี้ ใครที่ถือกล้องโดยเฉพาะกล้องวีดิโอ จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะฝ่ายที่มีอำนาจอยู่กำลังกลัวการต่อต้านจากต่างชาติ สังเกตุได้จากมีการเริ่มยิง คนที่ถ่ายวีดิโอที่ใส่เสื้อเบอร์แปดจนเสียชีวิต และยังมีผู้สื่อข่าววอซ์ททีวีโดนยิงบาดเจ็ยอีก เพราะเป็นทีวีช่องเดียวที่เสนอข่าวต่างจากสื่อกระแสหลักที่โดนรัฐบาลควบคุม แบบว่าทำให้สื่อกลัวจนไม่กล้าเข้ามาทำข่าวและนำเสนอข้อเท็จจริง เพีื่อทำลายหลักฐานการใช้ความรุนแรง แล้วป้ายสีให้ใครเป็นผู้ก่อการร้าย สร้างความชอบทำลายให้กับตัวเอง

ยุทธศาสตร์ที่สาม ที่เคยใช้สำเร็จมาแล้วในวันที่ 13 เมษษยบน 2552 เอาของหลวงมาเผา แล้วโยนความผิดให้ผู้ชุมนนุม สังเกตให้ดีเริ่มมีบางจุดมีลักษณะคล้ายๆๆ จะจงใจให้เกิด เพื่อฝ่ายที่อำนาจในปัจจุบัน จะได้มีข้ออ้างในการใช้กำลังในการสลายผู้ชุมนุม แต่มาวันนี้แกนนำไม่หลงกล มีสติมากกว่าวันนั้น เน้นยำให้อยู่ในที่ตั้งรับ ไม่ออกไปปะทะ ทำให้การดำเนินตามยุทธศาสตร์นี้ ไม่ค่อยได้ผล

ยุทธศาสตร์ที่สี่ ตัดกำลังบำรุง น้ำ ไฟ สัญญาณโทรศัพท์ อาหารและกำลังสนับสนุน การกระทำนี้มีลักษณะคล้ายๆๆ กับตอนที่พันธมิตรบุกล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แต่มาวันนี้มาแปลก เป็นแนวคิดของฝ่ายที่ถืออำนาจ ทำำให้เชื่อได้ว่า มีคนที่คิดแผนนี้ร่วมดำเนินการกับผู้ที่มีอำนาจในปัจจุบันเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมสามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้ เสมือนว่า ฝ่ายที่ถืออำนาจกลัว มวลชนที่สามารถเข้ามาเติมกำลังได้ตลอดเวลา จากการติดต่อสื่อสาร

ยุทธศาสตร์ที่ห้า การให้ข่าว เป็นการนำเสนอด้านเดียว โดยกล่าวหาว่า ผู้ชุนุนมใช้ความรุนแรงก่อน จึงมีความจำเป็นต้องใช้กำลังโต้ตอบ ปิดสื่อของผู้ชุมนุม ยังโชดดีที่ยังไม่สามารถปิดอินเตอร์เน็ทได้ กับื่อต่างชาติที่นำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ต่างสื่อไทยหลายๆๆสื่อ ที่ไม่นำเสนอข้อเท็จให้ทั้งสองฝ่าย

ยุทธศาสตร์ที่หก คือใช้คนใกล้ชิิดที่ไว้ใจได้ อันนี้เลียนแบบพัทยาโมเดล ใช้บริการ Mr.น เพื่อดำเนินการบางอย่างเพื่อให้ได้ตามที่ต้องการ อาจมีการจ้างทหารรับต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากทหารส่วนใหญ่ไม่อยากปะทะกับคนไทยด้วยกัน สังเกตได้จากมีการปิดหน้าตาพลางตัวดำต้องระวังให้ดี อาจไม่ใช่คนไทย โดยการยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุมให้โกรธ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ออกมาจากที่ชุมนุม จะให้เกิดสถานการณ์คล้ายที่พัทยา ต้องระวังอีกครั้ง ถ้าเกิดการเลิกชุมนุม รึสลายชุมนุม เวลาทางกลับบ้านเป็นจุดที่น่ากลัว เพราะจะมีอีกกลุ่มมาลอบทำร้าย คล้ายกับเมษาเลือดปีที่แล้ว

ยุทธศาสตร์ที่เจ็ด ทำลายหลักฐาน เก็บศพ งานนี้ฝ่ายที่ถืออำนาจพลาดเมื่อ 10 เมษายน มาคราวนี้ อาจจะมีผู้เสียชีวิตมากมายยิ่งอีกกว่า แถบเตรียมการมาพร้อม เพื่อ.... ไพร่แดงโอยเฉพาะ ต้องระวังโดยเฉพาะกลางคืนกับใกล้ๆๆ สว่าง ช่วงที่ไม่ค่อยมีคน ไม่ค่อยมีสื่อ จะสามารถทำได้สะดวโยธิน งานนี้งานถนัดของ.... รบคนที่ด้อยกว่า คนไม่มีอาวุธ ง่ายสบายมากกว่า อันตรายน้อยกว่า

ยุทธศาสตร์ที่แปด เก็บ วันนี้ยังมีฝ่ายตรงกันอยู่ในฝ่ายที่มีอำนาจ กำลังหาทางจัดการให้เรียบร้อยในทีเดียว ที่ได้ยึดครองอำนาจได้อย่างยาว ตามพม่าโมเดล ถ้าพลาดพลั้งอะไร ก็ถือโอกาสยึดอำนาจจากรัฐบาล แล้วเข้ามามีอำนาจเอง ถือเป็นความฝันของเหล่า.... ทำกันเป็นประจำอ่มหมีพีมัน ได้ทุกครั้งที่ทำ

ยุทธศาสตร์ที่เก้า ถ้าเกิดอะไรมากมายจนวุ่นวาย จะถือโอกาสปิดประเทศ เพื่อความปลอภัยของผู้ที่ใช้อำนาจกำลังความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม เพราะกลัวต้องไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศในข้อหาฆากรรมมุนยชาติ แล้วกำหนดการปกครองให้เฉพาะพวกอำมาตย์ เข้ามามีอำนาจเหนือประชาชนตลอดกาล

บทสรุป ถ้าฝ่ายที่ถืออำนาจชนะก็เขียนประวัติศาสตร์ แต่ประเทศคงกลับไปไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว กรุงเทพได้ลายเป็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การต่อต้านมีขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ถ้าฝ่ายผุ้ชุมนุมชนะ ก็จะมีพันธมิตรรอบสอง ม็อบมีเส้น แต่ที่แน่ๆๆ คือ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แม้ประชาชนจะตายแต่ความจริงยังอยู่ตลอดไป



อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของคนๆๆ เดียวไม่เกี่ยวกับคนอื่น ๆ จะถูกรึ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง ว่าใครผิด